วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หลักการใช้ as if และ as though



จริงๆ แล้วหลักการใช้ As if หรือ As though ก็คือหลักการใช้ If ที่ต้องการบ่งบอกถึงอะไรที่ตรงข้ามกับปัจจุบันนั่นเอง (ไว้จะมาอธิบายหลักการใช้ If อีกทีวันหน้า)



ตัวอย่างเช่น
- Welbeck plays (present) as if Manu won the game. (past)
- Sir Alex dresses (present) as though it were winter even in the summer. (past)
- People looked at RVP (past) as if they had seen the god. (past perfect)

- Welbeck plays (present) as if Manu won the game. (past)
ไอ้เวรเบรคเล่นเหมือนกับว่าแมนยูชนะเกมส์ไปแล้ว (จริงๆ แล้ว ณ ขณะนั้นแมนยูยังแข่งไม่จบ ยังไม่รู้ผลด้วยซ้ำ เขียนเพื่อประชดและตรงข้ามกับปัจจุบัน)

- Sir Alex dresses (present) as though it were winter even in the summer. (past)
ท่านเซอร์แต่งตัวยังกะมันเป็นหน้าหนาวทั้งๆ ที่มันเป็นหน้าร้อนแท้ๆๆๆ (จริงๆ แล้ว ณ ขณะนั้นเป็นหน้าร้อน ไม่ใช่หน้าหนาว แต่ต้องการประชดท่าน และบ่งบอกถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับปัจจุบัน)

เห็นอะไรมั้ยครับ
ถ้าประโยคหน้าเป็น Present tense ประโยคต่อจาก as if ต้องเป็น Past tense เสมอ!

และถ้าประโยคข้างหน้าเป็น Past tense ประโยคต่อจาก as if ต้องเป็น Past perfect เสมอ!

จุดสังเกตุอีกอย่างนึงก็คือ กริยาที่เป็น Verb to be ต้องเป็น WERE เสมอห้ามเป็น WAS แม้ว่าประธานจะเป็นเอกพจน์ก็ตาม ดังตัวอย่าง as though it were winter ประธานเป็น IT แต่คงต้องตามด้วย WERE


ปล. ที่กล่าวมาคือ ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลยในปัจจุบันและอดีต แต่ว่า เรายังสามารถใช้เพื่อบอกว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกันครับ เช่น he looks as if he has a cold คือมีความเป็นไปได้ว่าเค้าจะป่วย กับอีกประโยค He took an umbrella cause it looked as if it was going to rain ในอดีตเค้าเอาร่มไปด้วยเพราะมีโอกาสเป็นไปได้ว่าฝนจะตก 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น